วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

เมื่อตาดีๆ ต้องมีแผล

อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นการเตรียมพร้อม และรู้จักวิธีป้องกัน รับมือ จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอุบัติเหตุเกิดกับอวัยวะที่บอบบางอย่าง ดวงตา ของลูกด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้เลยทีเดียว

สถานการณ์สมมติ
ในสนามเด็กเล่น ที่เด็กๆ กำลังวิ่งวุ่น สนุกสนานกันอย่างเต็มที่ น้องเนเน่กำลังยืนเข้าคิวรอเล่นไม้ลื่นอยู่ดีๆ จู่ๆ ลูกเทนนิสสีเขียวสด ก็พุ่งมาจากที่ไหนสักแห่งด้วยความแรงสูง กระแทกที่เบ้าตาของเนเน่เข้าเต็มเปา ความรู้สึกแรกที่น้องเนเน่รู้สึกคือมึนงง ตามมาด้วยความปวดตุ๊บๆ ที่เบ้าตา เสียงเด็กๆ โดยรอบส่งเสียงหือฮา ขณะที่น้องเนเน่ส่งเสียงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด...

เมื่อตาช้ำ ทำอย่างไร
เมื่อลูกได้รับการกระแทกอย่างแรงบริเวณดวงตา คุณควรตรวจสอบดูว่าดวงตาของลูกถูกทำลายหรือไม่ เด็กโตสามารถจะบอกได้หากเขามองเห็นไม่ชัด คุณควรทำการทดสอบด้วยการปิดตาข้างหนึ่งของลูก แล้วทดสอบการมองเห็นของตาแต่ละข้าง สำหรับลูกน้อยวัยต่ำกว่า 5 ปี แม้ว่าอาการของลูกจะดูไม่รุนแรง แต่ก็ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบ

ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือนำก้อนน้ำแข็งมาห่อด้วยผ้าสะอาด ประคบบริเวณที่ช้ำทุกๆ ชั่วโมงครั้งละประมาณ 20 นาที เพื่อลดอาการช้ำ ทำอย่างต่อเนื่องประมาณ 4 ครั้ง
หลังจากผ่านไป 48 ชั่วโมง ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบ 10 นาที วันละ 3 ครั้ง เพื่อบรรเทาอาการเลือดคั่งในบริเวณที่บาดเจ็บ

พาลูกไปพบแพทย์ทันทีเมื่อ...

คุณคิดว่าลูกได้รับบาดเจ็บร้ายแรง
มองเห็นภาพไม่ชัด หรือมองไม่เห็นเลย ด้วยตาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้าง
มองเห็นภาพซ้อน หรือเหลือกตาขึ้นด้านบนไม่ได้
ลูกนัยน์ตาสองข้างมีขนาดไม่เท่ากัน หรือมีรูปทรงผิดไปจากปกติ
มีเลือดหรือของเหลวสีเทาๆ บริเวณตาขาว
วัตถุกระแทกดวงตาด้วยความเร็วสูง
ของแหลมคมทิ่มดวงตา
เปลือกตาเปิดขึ้น หรือเป็นแผลแตก
มีน้ำตาเอ่อหรือน้ำตาไหลไม่หยุดตลอดเวลา
ลืมตาไม่ได้
ลูกอายุต่ำกว่า 1 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา

ถนอมสายตาของเจ้าตัวน้อย

1. อย่าปล่อยให้ลูกใช้สายตานานเกินไป คุณอาจชวนลูกคุย หรือไปเดินเล่นระหว่างที่เขาทำกิจกรรมต่างๆ ด้วย
2. จัดแสงสว่างบริเวณที่ลูกอ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมต่างๆ ให้มีแสงเพียงพอ
3. หากมีฝุ่นผงเข้าตาสอนให้ลูกล้างตาด้วยน้ำสะอาด แทนการขยี้ตา
4. เตือนให้ลูกหลีกเลี่ยงการจ้องมองแสงจ้า เช่น แสงอาทิตย์
5. อย่าให้ลูกใช้แว่นตา หรือผ้าเช็ดหน้าร่วมกับผู้อื่นเพราะอาจติดโรคได้
6. กินอาหารที่บำรุงสายตาเช่น ไข่ นม น้ำมันตับปลา ผัก และผลไม้สีเหลือง