วันอังคารที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2557

ยาป้องกัน การคลอดก่อนกำหนด

ยาป้องกัน การคลอดก่อนกำหนด


ปกติแล้วคนเราตั้งครรภ์ครบกำหนดเมื่ออายุครรภ์ 40 สัปดาห์ หากคลอดในระหว่าง 37-42 สัปดาห์ยังถือว่ายังอยู่ในช่วงที่ทารกจะมีสุขภาพแข็งแรงดี หากเลยกำหนดคลอด 42 สัปดาห์ขึ้นไป รกจะมีการเสื่อมสภาพ ไม่สามารถส่งอาหารให้ทารกอย่างพอเพียง คุณหมอก็จะพิจารณาช่วยเร่งการคลอด หรือผ่าตัดคลอดให้แล้วแต่กรณี ส่วนการคลอดเมื่ออายุครรภ์น้อยกว่า 37 สัปดาห์เต็ม จะถือเป็นการคลอดก่อนกำหนด ทารกที่คลอดก่อนกำหนดมากๆ จะยังไม่มีความสมบูรณ์ของร่างกายมากพอที่จะอยู่ภายนอกร่างกายของแม่ได้ จะต้องทำการช่วยเหลือในการปรับสิ่งแวดล้อม ให้ทารกสามารถปรับตัวและเจริญเติบโตต่อภายนอกครรภ์มารดาได้ เช่นให้ทารกอยู่ในตู้อบที่มีอุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส อาจต้องให้นมหรือสารอาหารต่างๆทางสายยางสู่กระเพาะอาหาร หรือให้สารอาหารทางเส้นเลือด อาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจหากปอดของทารกยังไม่สมบูรณ์ดี เป็นต้น ซึ่งการที่ต้องเลี้ยงดูทารกใน NICU ก็เป็นสิ่งที่ไม่มีคุณแม่คนไหนอยากจะให้เป็น ทุกคนอยากให้เด็กคลอดออกมาสมบูรณ์แข็งแรงทั้งนั้น แต่บางครั้งหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อรักษาชีวิตของทั้งคุณแม่และทารก ก็อาจจำเป็นต้องให้คลอดก่อนกำหนด


เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์และยังไม่ครบกำหนด แต่เริ่มมีอาการว่าจะคลอดก่อนกำหนด คุณหมอก็มักให้การรักษา เพื่อประคับประคอง และยืดเวลาออกใปให้ทารกสามารถเจริญเติบโต ในครรภ์คุณแม่ได้นานที่สุด หรือจนครบกำหนดได้ก็จะยิ่งดี แต่การรักษานั้นก็เป็นการดูแลเมื่อปลายเหตุแล้วนะครับ การป้องกันการคลอดก่อนกำหนด สามารถทำได้โดยการฝากครรภ์อย่างใกล้ชิด และการปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมของคุณแม่ด้วย แต่แม้ว่าจะดูแลเป็นอย่างดีแล้ว ก็ยังมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้จากปัจจัยอื่นๆที่เราควบคุมไม่ได้ครับ


เมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาได้รับรองยาชนิดหนึ่งซึ่งสามารถช่วยป้องกันการคลอดก่อนกำหนดได้เป็นครั้งแรก ชื่อว่า Makena (hydroxyprogesterone caproate) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนด ซึ่งสงผลต่อสุขภาพของทารกแรกเกิดมากมายหลายประการ รวมถึงโอกาสรอดชีวิตของทารกด้วย


ยาชนิดนี้ถูกนำมาใช้ในคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด โดยเฉพาะในผู้ที่เคยมีประวัติการคลอดก่อนกำหนด มาก่อนโดยการตั้งครรภ์ทารกคนเดียว ซึ่งเป็นผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดการคลอดก่อนกำหนดซ้ำได้อีก  และต้องเป็นการตั้งครรภ์ทารกคนเดียวเท่านั้น เนื่องจากการตั้งครรภ์แฝดมีหลายสาเหตุที่จะส่งผลให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด


โดยที่ยา Makena ได้ผ่านการศึกษาและทดลองทางคลินิก ในหญิงตั้งครรภ์ 463 ราย อายุตั้งแต่ 16 - 43 ปี ซึ่งเคยตั้งครรภ์ทารกคนเดียวและมีการคลอดก่อนกำหนดมาก่อน ในกลุ่มทดลอง หญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับยาป้องกันการคลอดก่อนกำหนด เกิดการคลอดก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ ร้อยละ 37 ในขณะที่หญิงตั้งครรภ์กลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับยาป้องกัน เกิดการคลอดก่อนกำหนดร้อยละ 55


ในการศึกษาระยะที่ 2 ได้ทำการประเมินพัฒนาการของทารกที่เกิดจากมารดาในกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมดังกล่าว ซึ่งพบว่าเมื่อเด็กแรกเกิดอายุ 2.5- 5 ขวบ ทั้งสองกลุ่มมีพัฒนาการไม่แตกต่างกัน และจะมีการติดตามศึกษาต่อไปในระยะที่ 3 ตามแผนการศึกษา ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2018


ยา Makena นั้นสามารถให้โดยการฉีดเข้าไปบริเวณสะโพกสัปดาห์ละครั้ง เริ่มฉีดเมื่ออายุครรภ์ 16 สัปดาห์ และไม่ควรเริ่มหลังจาก 21 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ และจะสิ้นสุดการฉีดยาเมื่ออายุครรภ์ 37 สัปดาห์ อาการข้างเคียงที่อาจพบได้ ได้แก่ ความเจ็บปวด บวม และคัน บริเวณที่ฉีดยา อาจมีคลื่นใส้และท้องเสียได้ด้วย


สำหรับในประเทศไทย สถิติคลอดก่อนกำหนดมีจำนวน 64,000-80,000 คน/ปี ซึ่งการคลอดก่อนกำหนดเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อสุขภาพของเด็กในระยะยาว จึงถือเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องดูแลแก้ไข กลุ่มมารดาที่มีภาวะเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด ได้แก่

• หญิงตั้งครรภ์ที่อายุน้อยกว่า 17 ปี หรือมากกว่า 35 ปี

• มีประวัติดื่มอัลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ใช้สารเสพติดระหว่างตั้งครรภ์

• ตั้งครรภ์แฝด มีปัญหารกเกาะต่ำ หรือมีความผิดปกติของมดลูก เช่น มีเนื้องอกที่มดลูกหรือปากมดลูกผิดปกติ ฯลฯ

• มีโรคประจำตัวเช่น โดยเฉพาะเบาหวาน ความดันโลหิตสูงในระหว่างตั้งครรภ์

• มีประวัติคลอดก่อนกำหนดมาก่อน มีโอกาสเป็นซ้ำ

• มีประวัติแท้งบุตรมาก่อน


คุณแม่สามารถช่วยป้องกันการคลอดก่อนกำหนด โดยมาฝากครรภ์แต่เนิ่นๆเมื่อทราบว่าตั้งครรภ์ ไปตรวจครรภ์ตามที่คุณหมอนัดนัด และทำตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัด  รับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่ ผักผลไม้สด และรับประทานโปรตีนให้เพียงพอ  ไม่บริโภคแอลกอฮอล์ บุหรี่ ยาเสพติด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เท่านี้ก็ช่วยลดโอกาสเกิดการคลอดก่อนกำหนดได้มาก และยังส่งผลให้คุณแม่และทารกมีสุขภาพแข็งแรงดีอีกด้วยครับ